แบล็คแจ็คออนไลน์ (Blackjack) อีกเกมเดิมพันยอดนิยมบนเว็บเกมส์คาสิโนออนไลน์ ที่มีกติกาการตัดสิน โดยแข่งกันระหว่างฝั่งผู้เล่น และดีลเลอร์ ว่าไพ่ของฝั่งไหนจะมีแต้มรวมมากกว่ากัน โดยสูงสุดที่ 21 และถ้าเลขหน้าไพ่รวมกันได้เกิน 21 ก็จะถือว่า ‘busted’ หรือแพ้ทันที
แต่ก่อนที่จะไปเรียนรู้ถึงสูตรแบล็คแจ็ค แบบทำเงินได้จริง โดยอิงตามหลักทางคณิตศาสตร์ เราไปทำความเข้าใจวิธีการเล่นแบล็คแจ็ค หรือที่บางคนเรียกว่า ไพ่ 21 ในเว็บคาสิโนออนไลน์ ขั้นพื้นฐานแบบ step by step กันก่อนดีกว่าครับ…
แบล็คแจ็คออนไลน์ เว็บไหนดี
Rank | Casino | Bonus | Rating | Visit |
---|---|---|---|---|
1 | | เครดิตฟรี 300 บาท | VisitReview | |
2 | | โบนัส 300% + 150 ฟรีสปิน | VisitReview | |
3 | | เครดิตฟรี 200 บาท | VisitReview | |
4 | | เครดิตฟรี 260 ฝากรับ 100% สูงสุด 6,000 | VisitReview | |
5 | | ฝาก 200 รับ 600 ฟรีสปิน | VisitReview | |
6 | | สุดปัง ฟรีเครดิตแค่สมัคร 300 บาท ไม่ต้องฝาก ไม่ต้องแชร์ ไม่ต้องทำเทิร์น เล่นได้ทุกเกมส์ | VisitReview | |
7 | | รับฟรีเครดิต900เมื่อฝากขั้นต่ำ300 | VisitReview | |
8 | | เครดิตฟรี 300 ไม่ต้องทำเทิร์น เพียงแค่ โหลดแอพ ลงเครื่อง | VisitReview |
กติกาการเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์
การเล่นไพ่แบล็คแจ็คในคาสิโนสด อาจจะดูยุ่งยากซับซ้อนในตอนแรกครับ แต่อันที่จริงมีกติกาการเล่นที่ง่าย และสนุกมาก เป็นการแข่งกันระหว่างฝั่งผู้เล่น และดีลเลอร์ (เจ้ามือ) ว่าของใครจะมีเลขบนหน้าไพ่รวมกันแล้วได้มากกว่า โดยมีแต้มสูงสุดที่ 21 และถ้าเลขบนหน้าไพ่ของฝั่งไหน รวมกันได้มากกว่า 21 ก็จะถือว่า ‘Busted’ หรือไพ่ตายนั่นเอง
กฎกติกาการเล่น:
- แต้มสูงสุดคือ 21
- หากแต้มเกิน 21 เท่ากับ ‘Busted’ หรือเสียทันที
- มือไหนที่ได้ [[ Ace 1 ใบ + ไพ่มีค่า 10 = Blackjack!! ]]
- ผู้เล่น – เจ้ามือ Blackjack เหมือนกัน จะถือว่าเสมอ
- ทั้งผู้เล่นและดีลเลอร์ สามารถใช้สิทธิจั่วไพ่เพิ่มได้ โดยฝั่งดีลเลอร์จะหยุดจั่วเมื่อไพ่มากกว่า หรือเท่ากับ 17 (บางโต๊ะก็ 16)
วิธีนับไพ่แบล็คแจ็ค
ในการเล่นไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์ มีวิธีนับไพ่ที่เหมือนกันทั้งหมด ทั้งโต๊ะคาสิโนสดยุโรป และเอเชีย ดังนี้
- ไพ่เลข 2 – 10 มีค่าเท่ากับตัวเลขบนหน้าไพ่
- ไพ่ฝรั่ง Jack, Queen และ King มีค่าเท่ากับ 10
- ไพ่ Ace สามารถเป็นได้ทั้ง 1 หรือ 11
- ในการเล่น หาก 1 ใน 2 ใบแรก มีไพ่ Ace จะเรียกว่า ‘Soft Hand’ นอกเหนือจากนี้จะเป็น ‘Hard Hand’
วิธีเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์
วิธีการเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ ทั้งบนมือถือ และเดสก์ท็อป หลังจากที่เลือกห้องคาสิโนสดแลว ผู้เล่นจะต้องทำการวางเดิมพันขั้นต่ำ ส่วนใหญ่จะไม่ต่ำกว่า 100 บาท ในช่องวงกลมด้านหน้าเก้าอี้ที่เราเลือกนั่ง หรือเลือกเดิมพัน side bet ก็ได้ด้วยเช่นกัน
จากนั้นเจ้ามือจะทำการแจกไพ่ให้ผู้เล่นคนละ 2 ใบ แบบเปิดหน้าไพ่ทั้ง 2 ใบ และเจ้ามือจะแจกไพ่ให้ตัวเอง 2 ใบ แต่เปิดหน้าไพ่แค่ใบแรกเท่านั้น เสร็จแล้วผู้เล่นจะได้รับสิทธิตัดสินใจ ว่าจะเลือกเดิมพันรูปใดบ้าง ตามนี้..
- Hit: ขอไพ่เพิ่มทีละ 1 ใบ และผู้เล่นจะขอได้เรื่อยๆ จนกว่าจะ Busted หรือพอใจ
- Stand: ไม่ต้องการรับไพ่เพิ่ม (พอใจกับแต้มที่ได้แล้ว)
- Double Down: ใช้สิทธิจั่วไพ่เพิ่มได้อีก 1 ใบเท่านั้น พร้อมลงเงินเดิมพันเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
- Split: ใช้ได้ในกรณีที่ผู้เล่นได้ไพ่คู่กัน สามารถเลือก Split เพื่อแยกคู่เป็น 2 มือ และใช้สิทธิ Hit สำหรับเรียกไพ่ที่แยกออกมาได้
- Surrender: ใช้ได้ตอนแจกไพ่ 2 ใบแรกเสร็จแล้ว (โดยดีลเลอร์เปิดไพ่ 1 ใบ) เป็นการหมอบ และได้เงินเดิมพันคืนเป็น 1/2 หรือครึ่งเดียวนั่นเอง
- Insurance: หลังแจกไพ่ 2 ใบแรกเสร็จ หากไพ่ใบที่ 1 ของดีลเลอร์เป็น Ace ผู้เล่นจะมีสิทธิเลือกว่าจะ ทำ/ไม่ทำ ถ้าเลือก ‘ทำ’ จะต้องลงเงินเดิมพันเพิ่มอีก ครึ่งเท่า ถ้าดีลเลอร์ได้ 21 blackjack ผู้เล่นจะได้เงินที่ทำประกันไว้เป็น 2 เท่า แต่ถ้าไม่ blackjack 21 ก็เสียเงิน Insurance ไปทันที
ขั้นตอนการเล่นแบล็คแจ็ค
- ดีลเลอร์จะผายมือผ่านผู้เล่นทุกคน เป็นสัญญาณว่าให้วางเงินเดิมพันได้
- เมื่อวางงานเดิมพันเสร็จแล้ว ดีลเลอร์จะแจกไพ่แบบเปิดแต้ม เรียงให้ผู้เล่นจนครบ คนละ 2 ใบ
- ดีลเลอร์จะได้จั่วไพ่ใบที่ 2 เป็นคนสุดท้าย ซึ่งจะเป็นการจั่วแบบปิดหน้าไพ่
- ดีลเลอร์จะให้เราได้เริ่มเล่นก่อน โดยเรียงจาก ซ้ายมือ ไป ขวามือ (ของดีลเลอร์)
- ผู้เล่นแต่ละคน สามารถเลือกว่า จะ Hit, Stand, Double Down, Pair หรือ Secured
- เมื่อฝั่งผู้เล่นเสร็จแล้ว ดีลเลอร์จะเปิดไพ่ใบที่ 2 โดยมีสิทธิจั่วเพิ่มได้ ถ้าแต้มน้อยกว่า 16 หรือ 17 (แล้วแต่กฎของแต่ละโต๊ะ)
- หากดีลเลอร์ได้เกิน 21 จะถือว่า Busted เช่นเดียวกับผู้เล่น
รูปแบบการวางเงินเดิมพัน
จุดเด่นของเกมไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์ ที่ทำให้นักพนันรู้สึกเร้าใจ และทำเงินได้ง่าย ก็คือรูปแบบการวางเดิมพันของแบล็คแจ็คนี่แหละ
ซึ่งนอกเหนือจากเดิมพันแบบปกติ (Regular bet) ที่มีอัตราการจ่าย 1:1 นักพนันแบล็คแจ็คมืออาชีพหลายคน มักจะใช้รูปแบบพวกนี้ในการทำเงินด้วย
Behind Bet
ผู้เล่นสามารถวางเงินเดิมพันที่ช่องด้านหลังของผู้เล่นคนอื่นได้ เห็นใครมือขึ้น หรือรู้สึกถูกโฉลกใคร ก็วางเงินเดิมพันที่ด้านหลัง และยกให้เค้าตัดสินใจแทนได้เลยนั่นเอง
Perfect Pair
เมื่อไพ่ 2 ใบแรกที่ผู้เล่นได้รับ เป็นไพ่คู่กัน ซึ่งมันน่าสนใจตรงที่แบล็คแจ็คมีอัตราการคูณให้กับไพ่คู่ทั้ง 3 รูปแบบ คือ
- ไพ่คู่ผสม (Mixed Pairs) อัตราจ่าย 6:1 – ไพ่ที่มีค่าเท่ากัน แต่ไม่นับดอก เช่น ไพ่ Q โพดำ – Qเอซ, ไพ่ 10 ข้าวหลามตัด – 10 โพแดง เป็นต้น
- ไพ่คู่สีเหมือนกัน (Colored Pairs) อัตราจ่าย 12:1 – ไพ่ที่มีค่าเท่ากัน มีสีของดอกเหมือนกัน โดยไม่จำเป็นต้องดอกเหมือนกัน เช่น ไพ่ 9 ข้าวหลามตัด – 9 โพแดง, ไพ่ J โพดำ – J ดอกจิก
- ไพ่คู่เพอร์เฟค (Perfect Pairs) อัตราจ่าย 25:1 – ไพ่ที่มีทั้งค่าและดอกตรงกัน 2 ใบ
21+3
เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการเดิมพัน ที่ทำเงินให้นักพนันแบล็คแจ็คออนไลน์ได้ไวมาก ซึ่ง 21+3 คือ เดิมพันว่าไพ่ 2 ใบของเรา และ 1 ใบแรกของดีลเลอร์ เรียงกัน โดยแบ่งเป็น 5 แบบ คือ
- Suited Trips อัตราจ่าย 100:1 – ได้ไพ่เดียวกันทั้ง 3 ใบ มีทั้งดอกและเลขเหมือนกัน
- Straight Flush อัตราจ่าย 40:1 – ไพ่เรียงกัน 3 ใบ โดยมีดอกเหมือนกัน
- Three of a kind อัตราจ่าย 30:1 – ได้ไพ่ตอง หรือเลขเดียวกัน 3 ใบ (แต่ไม่นับดอก)
- Straight อัตราจ่าย 10:1 – ไพ่ 3 ใบ เป็นแต้มเรียงกัน แต่ดอกไม่เหมือนกัน
- Flush อัตราจ่าย 5:1 – ไพ่ทั้ง 3 ใบ ได้ดอกเหมือนกัน แต่เลขไม่เหมือนกัน
นอกจากเทคนิคหรือวิธีการเล่นเกมไพ่คาสิโนสดที่เหมือนกับแบล็คแจ็คอย่าง ไพ่บาคาร่า หรือวิธีเล่นเสือมังกร ทุกท่านยังสามารถติดตามสูตรและวิธีการเล่นรูเล็ต หรือไฮโล เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะเจ้ามือได้จริง
แบล็คแจ็คออนไลน์เป็นเกมไพ่ที่ยิ่งเล่นก็จะยิ่งรู้สึกสนุก โดยเฉพาะถ้ารู้จักศึกษาเทคนิค หรือสูตรการเล่นแบล็คแจ็ค แต่จะเล่นให้สนุกที่สุดก็ต้องเลือกเล่นกับผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งเข้าไปติดตามดูรายละเอียดทั้งข้อเสนอโบนัส และตัวเลือกห้องคาสิโนแบล็คแจ็คเว็บไหนดีที่สุดได้ที่ รีวิวเว็บคาสิโนออนไลน์ จากทีมงานเรา